ถึงแม้จะเสริมจมูกเสร็จไปแล้วก็ตาม แต่ต้องระวังให้ดี เพราะหากเลือกคลินิกเสริมจมูกไม่ดี หรือเลือกทรงจมูกไม่เหมาะสมกับตัวเอง รวมถึงการดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก ก็จะส่งผลทำให้เกิดปัญหาจมูกทะลุได้ ซึ่งบางคนอาจจะไม่รู้ตัว แต่รู้หรือไม่ว่าอาการบางอย่างอาจเป็น สัญญาณเตือนจมูกทะลุ ที่บอกคุณว่าต้องรีบรักษาโดยเร็ว ถึงแม้หลายคนอาจจะมองว่าอาการเหล่านี้ไม่ได้รุนแรงมาก แต่ถ้าจมูกเกิดทะลุแล้วจะทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ดังนั้นอย่าได้มองข้ามสัญญาณเตือนเหล่านั้น
วันนี้ Bujeong Clinic จะมาบอกข้อสังเกตอาการเตือน ว่าจมูกของคุณกำลังจะทะลุ หรือไม่ ถ้าคุณกำลังจะเสริมจมูก หรือพึ่งทำจมูกมาใหม่ ต้องระวังให้ดี !!
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาจมูกทะลุ
- เลือกซิลิโคนไม่เหมาะสม ก่อนทำจมูก การตรวจเช็ครายละเอียดซิลิโคน นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะถ้าเลือกซิลิโคนไม่ดี และไม่เหมาะสมจะส่งผลทำให้เกิดปัญหาจมูกทะลุได้ง่าย ดังนั้นจะต้องเลือกขนาดของซิลิโคนให้เหมาะกับเนื้อจมูกของตัวเอง โดยเฉพาะคนที่มีเนื้อจมูกน้อย ไม่ควรเลือกซิลิโคนที่โด่ง หรือยาวจนเกินไป
- เลือกซิลิโคนที่มีมาตรฐาน เรื่องมาตรฐานของซิลิโคนก็นับว่าสำคัญมาก อย่าเห็นแก่ของถูก แต่ควรเลือกของที่ดีมีคุณภาพ ควรจะเลือกซิลิโคนที่มีความยืดหยุ่นกำลังดี ไม่เป็นแท่งแข็งจนเกินไป เพราะอาจส่งผลทำให้เกิดการเสียดสีที่ปลายจมูกได้ง่าย
- วางตำแหน่งซิลิโคนไม่ดี ตำแหน่งของซิลิโคนนับว่ามีผลต่อปัญหาปลายจมูกทะลุเหมือนกัน ซึ่งมักเกิดจากการวางซิลิโคนไม่ตรง (ไม่สมมาตร) ซึ่งทำให้ปลายจมูกทะลุได้ เนื่องจากอาจจะเกิดการกระแทก หรือแรงกด ที่ส่งผลทำให้ซิลิโคนเคลื่อน
- แก้จมูกบ่อยจนเกินไป เมื่อทำการแก้จมูกบ่อยเกิน โดยไม่พักรักษาให้แผลฟื้นตัวก่อน จะส่งผลทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือปลายจมูกบางได้ ซึ่งจะทำให้ซิลิโคนทะลุออกมาได้ง่าย ดังนั้นอย่ารีบร้อน ทางที่ดีควรพักฟื้นตามคำแนะนำของแพทย์
- ดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกไม่ดี จนเกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อ เมื่อจมูกเริ่มติดเชื้อ สีของปลายจมูกจะเปลี่ยนไป ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนให้ระวัง นอกจากปลายจมูกเปลี่ยนสีแล้ว อาจจะมีเลือด หรือน้ำเหลืองไหลออกมาจากบริเวณรอยผ่าตัด หรือด้านในจมูกก็ได้ รวมถึงอาจจะมีอาการอื่นๆ เช่น รู้สึกเจ็บ เนื้อจมูกเน่า ซิลิโคนทะลุออกมา
>> สามารถอ่านบทความ จมูกทะลุ คือ? พร้อมสาเหตุและวิธีการป้องกัน ได้ที่นี่ <<
สัญญาณเตือนจมูกทะลุ ที่ต้องระวังให้ดี!!
อาการจมูกทะลุก็เหมือนกันอาการของโรคทั่วไป ที่มักจะมีสัญญาณเตือนก่อนที่อาการจะลุกลามจนยากที่จะรักษา ซึ่งอาการเตือนเหล่านี้ก็จะมีอาการที่แตกต่างกันไป บางคนอาจจะแสดงอาการแค่บางอย่าง บางคนอาจจะมีอาการหลายอย่าง มาดูกันดีกว่าว่าสัญญาณเตือนแบบไหนบ้างที่แสดงว่าจมูกของคุณกำลังจะทะลุ!
สีของปลายจมูกเปลี่ยนไป
อาการที่สามารถสังเกตได้ชัดๆ เลยสามารถดูได้ที่ปลายจมูกที่มีสีเปลี่ยนไป เพราะสีของปลายจมูกที่เปลี่ยน เป็นเพราะปลายจมูกบาง จนทำให้ซิลิโคนเกิดการเสียดสีกับปลายจมูกโดยตรง หรืออาจจะมาจากการติดเชื้อ ซึ่งจะทำให้ปลายจมูกเปลี่ยนสีไปเป็นสีที่เข้มขึ้นจนสังเกตเห็นได้ชัด โดยส่วนใหญ่จะเป็นสีดังต่อไปนี้
- สีซีด เป็นผลมาจากปลายจมูกที่บาง และอาจจะมาจากพังผืดที่หุ้มซิลิโคน
- สีแดง มาจากการอักเสบ เนื่องจากซิลิโคนกับเนื้อบริเวณปลายจมูกเกิดการเสียดสี ซึ่งสีแดงบริเวณปลายจมูกจะแดงขึ้นเรื่อยๆ
- สีม่วง หรือสีดำ เกิดจากการที่ปลายจมูกเสียดสีมากจนเกิดอาการบวม และเป็นหนอง รวมทั้งถ้าหากปลายจมูกเริ่มเป็นสีดำแสดงว่า อาจมีอาการติดเชื้อ ซึ่งเนื้อบริเวณนั้นอาจจะเป็นเนื้อตาย ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดอันตรายได้
หากปลายจมูกเริ่มเปลี่ยนสี โดยเฉพาะเป็นสีเข้มจนถึงดำ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีอย่าปล่อยไว้ ทางที่ดีแนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเมื่อปลายจมูกเริ่มเปลี่ยนสี จะได้ไม่สายจนเกินไป
มีสิวหัวช้างขึ้นบริเวณปลายจมูก
เกิดสิวเม็ดใหญ่ที่บริเวณปลายจมูกจนรู้สึกเจ็บ ซึ่งไม่ว่าจะรักษาสิวอย่างไรก็ไม่หาย สิวไม่ยุบลง หากมีสิวหัวช้างที่บริเวณปลายจมูก อาจจะเกิดจากการที่ปลายจมูกเกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อ เนื่องจากปลายจมูกเกิดการเสียดสี
ปลายจมูกมันวาว
เป็นผลมาจากปลายจมูกที่บาง เนื่องจากซิลิโคนเสียดสีกับปลายจมูกมาก ทำให้เห็นเนื้อจมูกใส และซิลิโคนสะท้อนแสงจนเป็นเงามันวาว หากมีสัญญาณเตือนนี้ ถือว่าค่อนข้างอันตราย เพราะว่าปลายจมูกบางมากจนเห็นซิลิโคน ซึ่งแสดงว่าจมูกกำลังจะทะลุ จะต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
รู้สึกเจ็บบริเวณปลายจมูกเมื่อสัมผัส
โดยปกติเมื่อจับบริเวณปลายจมูกจะต้องไม่รู้สึกเจ็บ หรือไม่เกิดอาการใดๆ แต่ถ้าเกิดว่าสัมผัสบริเวณปลายจมูกแล้วรู้สึกเสียว หรือรู้สึกเจ็บ สาเหตุมาจากปลายจมูกที่บาง เพราะเมื่อเนื้อปลายจมูกบางจะทำให้สัมผัสกับซิลิโคนโดยตรง และเมื่อซิลิโคนเสียดสีกับผิวก็อาจทำให้เกิดอาการเจ็บได้
เห็นแท่งซิลิโคนโผล่ออกมา
อีกสัญญาณเตือนที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ หากเป็นแท่งซิลิโคนโผล่ออกมาจากบริเวณปลายจมูก หรือมีส่วนที่นูนออกมาอย่างชัดเจน ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนอันตรายที่อันตรายมากๆ บ่งบอกว่าปลายจมูกของคุณทะลุแล้ว
หากมีแท่งซิลิโคนโผล่ออกมา ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นการดันซิลิโคนกลับเข้าไป หรือดึกแท่งซิลิโคนออกมา เพราะว่าจะยิ่งส่งผลให้เกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อ รวมถึงอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ได้
วิธีแก้ไขเมื่อเกิด สัญญาณเตือนจมูกทะลุ
เมื่อมีสัญญาณเตือนเหล่านี้แสดงว่าจมูกของคุณใกล้จะทะลุแล้ว แต่ถ้าหากมีแท่งซิลิโคนโผล่ออกมา แสดงว่าจมูกทะลุแล้ว หากมีอาการเหล่านี้ อย่าพึ่งไปทำอะไร โดยเฉพาะการสัมผัสบริเวณปลายจมูก เพราะอาจจะทำให้เกิดการอักเสบ และติดเชื้อขึ้นได้ ทางที่ดีควรจะรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด หากปล่อยเอาไว้อาจจะส่งผลรุนแรงได้ โดยเฉพาะเมื่อแท่งซิลิโคนโผล่ออกมา อาจทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงได้
การแก้ไขปัญหาปลายจมูกทะลุ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินอาการก่อนที่จะทำการรักษา หากรีบมาพบแพทย์ไว แล้วอาการไม่ได้หนักมากนัก ในช่วงแรกแพทย์จะทำการลดอาการบวมของจมูกก่อน (อาจจะเป็นการให้ทานยาแก้อักเสบ หรือรักษาการอักเสบให้ดีขึ้นก่อน) จากนั้นแพทย์จะนำเอาซิลิโคนอันเก่าที่ทะลุออกมา และในช่วงนี้จะยังไม่ทำการใส่ซิลิโคนใหม่เข้าไปทันที แต่จะต้องพักจมูกให้อาการดีขึ้นก่อนตามอาการ (บางคนที่มีอาการไม่หนักมากอาจจะใช้เวลาอยู่ที่ 6 เดือน หรือขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์) เมื่อทำการพักจมูกจนอาการบวม หรือการอักเสบดีขึ้นแล้ว ก็จะทำการใส่ซิลิโคนอันใหม่เข้าไปแทนที่
- กรณีที่ไม่ได้มีอาการหนัก (มาพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ หรือจมูกไม่ได้มีอาการอักเสบ) หากแพทย์ประเมินว่าสามารถแก้ไขจมูกได้เลยก็ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ในการแก้ไขจมูกครั้งนี้ แพทย์อาจจะมีการปรับทรงซิลิโคนจมูกให้เหมาะสมกับคุณมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของความยืดหยุ่น และทรงซิลิโคนที่เหมาะกับเนื้อจมูก เพื่อทำให้ไม่เกิดเหตุการณ์จมูกทะลุอีก
- กรณีที่อาการหนัก เช่น ปลายจมูกเป็นสีคล้ำ กรณีเช่นนี้เนื้อบริเวณปลายจมูกอาจจะตายแล้ว ทำให้จะต้องนำซิลิโคนออกแล้วพักฟื้น จากนั้นเมื่อทำการใส่ซิลิโคนเข้าไปใหม่ แพทย์อาจจะใช้กระดูกอ่อนส่วนต่างๆ เช่น กระดูกอ่อนหลังหู หรือกระดูกอ่อนซี่โครง ในการนำมารองบริเวณปลายจมูกแทน เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และยืดหยุ่น เป็นการป้องกันปลายจมูกทะลุ และอาจจะปรับความโด่งให้เหมาะสมกับเนื้อจมูก
หากคุณมีสัญญาณเตือนใดสัญญาณหนึ่ง หรือมีหลายอาการ ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด อย่าได้ละเลยโดยเฉพาะสิวหัวช้างที่ไม่หายสักที ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมองว่าอาจเป็นสิวทั่วไป จนทำให้เกิดอาการลุกลามใหญ่โต และส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมมา รวมไปถึงอาการที่รุนแรงต่างๆ เช่น เมื่อเกิดการติดเชื้อรุนแรง อาจจะส่งผลทำให้จมูกเสียทรง หรือเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ดังนั้นทางที่ดีควรจะรีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาให้เร็วที่สุด
นอกจากนั้นการดูแลตัวเองไม่ให้เกิดปัญหาจมูกทะลุ ก็สามารถทำได้โดยการศึกษารายละเอียดของซิลิโคนที่เหมาะสม และเลือกซิลิโคนที่ดีมีคุณภาพ โดยเฉพาะเนื้อของซิลิโคนที่เหมาะกับเนื้อจมูก นอกจากนั้นการเลือกคลินิกเสริมจมูกให้ดี ก็นับว่ามีความสำคัญมาก เพราะแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน และแนะนำทรงจมูกที่เหมาะสม เพื่อป้องกันอันตรายที่จะทำให้จมูกทะลุ เช่น อาจจะแนะนำให้ใช้กระดูกอ่อนรองบริเวณปลายจมูก เพื่อป้องกันจมูกทะลุ ดังนั้นควรจะฟังคำแนะนำของแพทย์ให้ดี
คลินิกที่ดีจะต้องมีมาตรฐาน สะอาด และเดินทางได้ง่าย เพื่อให้ง่ายต่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ และแพทย์ควรจะมีประสบการณ์ มีความชำนาญอย่างที่ Bujeong Clinic คลินิกที่ให้บริการเสริมจมูก โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะด้าน ที่จะช่วยเนรมิตจมูกของคุณให้ออกมาสวยในแบบที่ใช่คุณ!
เสริมจมูกให้ปังเลือกทำที่ Bujeong Clinic !!
Bujeong Clinic (ศูนย์ศัลยกรรมพูจองคลินิก) เป็นคลินิกเสริมความงาม ที่ให้บริการศัลยกรรม และ หัตถการ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ มาตรฐานความปลอดภัย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งแพทย์ไทย และ แพทย์เกาหลี ที่มากด้วยประสบการณ์ ที่พร้อมจะเนรมิตให้คุณสวยแบบที่ต้องการ นอกจากนั้นแล้วพูจองคลินิกยังมีสาขาให้เลือกมากมายถึง 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพ และ ต่างจังหวัด เพราะความสวยไม่รอใคร อยากสวยเลือกทำที่ Bujeong Clinic !
มั่นใจ ปลอดภัย และ ได้มาตรฐาน พูจองคลินิกส่งตรงความงาม แบบฉบับเกาหลี
สามารถติดตาม Bujeong Clinic สำหรับเสริมความงาม ช่องทางต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
Facebook : Bujeong Clinic – พูจอง คลินิก
Line : @Bujeong-Clinic
Tel : 088-050-1111
สามารถติดตาม Bujeong Clinic Surgery Center สำหรับศัลยกรรม ช่องทางต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
Facebook : Bujeong surgery center
Line : @bujeongsurgery
Tel : 061-042-2999